เกร็ดความรู้
9 มีนาคม 2567
ประกันสุขภาพแบบไหน ลดหย่อนภาษีได้
ทุกวันนี้การมีประกันสุขภาพถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะต้องยอมรับว่า เมื่อเกิดการเจ็บป่วยฉุกเฉินขึ้นมา แล้วไม่มีการทำประกันเอาไว้เพื่อช่วยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล การเจ็บป่วยแต่ละครั้ง สามารถส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในอนาคตได้เลย นอกจากนี้การทำประกันสุขภาพบางประเภท ยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านภาษีไปได้ส่วนหนึ่งเลยทีเดียว เรียกว่าทำประกันสุขภาพทีเดียวช่วยทั้งคุ้มครองและสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้ทำประกัน แต่ประกันสุขภาพแบบไหนลดหย่อนภาษีได้บ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กัน
ประกันสุขภาพที่ลดหย่อนภาษีได้ มีอะไรบ้าง
ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ประกันสุขภาพที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ มีดังนี้
ประกันสุขภาพส่วนบุคคล
หมายถึง ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล, การชดเชยทุพพลภาพ และการสูญเสียอวัยวะ เนื่องจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ตัวอย่างของประกันสุขภาพส่วนบุคคล ได้แก่ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย, ประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยนอก, ประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยใน เป็นต้น
ประกันอุบัติเหตุเฉพาะ
หมายถึง ประกันอุบัติเหตุที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล, การทุพพลภาพ, การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก ตัวอย่างของประกันอุบัติเหตุเฉพาะ เช่น ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม เป็นต้น
เงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีของประกันสุขภาพ คือ
• ต้องเป็นประกันสุขภาพที่ออกโดยบริษัทประกันในประเทศไทย
• เบี้ยประกันสุขภาพต้องจ่ายจริง
• เบี้ยประกันสุขภาพที่นำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี แต่รวมกับเบี้ยประกันชีวิตสำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกำหนดตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
ประโยชน์ของการนำประกันสุขภาพมาลดหย่อนภาษี
การลดหย่อนภาษีเป็นสิทธิประโยชน์ที่รัฐมอบให้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีพฤติกรรมที่ดีต่อสังคม เช่น การออม, การประกันสุขภาพ เป็นต้น การลดหย่อนภาษีประกันสุขภาพ ช่วยให้ประชาชนมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพลดลง และมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น สามารถนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ หรือนำไปลงทุนต่อยอดเพื่อเพิ่มรายได้ในอนาคต
ข้อควรระวังในการทำประกันสุขภาพเพื่อลดหย่อนภาษี
ผู้ที่สนใจทำประกันสุขภาพเพื่อลดหย่อนภาษี ควรศึกษาเงื่อนไขให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในแง่ของการคุ้มครองสุขภาพอย่างครอบคลุม และตรงกับความต้องการ ส่วนการลดหย่อนภาษีก็ต้องดูว่าตรงกับหลักเกณฑ์ของสรรพากรหรือไม่ โดยในการพิจารณาควรปฏิบัติดังนี้
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าประกันสุขภาพที่ซื้อเข้าเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีของกรมสรรพากร
• เก็บหลักฐานการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพไว้ เพื่อเป็นหลักฐานในการยื่นขอลดหย่อนภาษี เช่น ใบเสร็จรับเงิน หรือสำเนากรมธรรม์ประกัน
• ยื่นขอลดหย่อนภาษีภายในกำหนดเวลาที่กำหนด
จะทำประกันสุขภาพทั้งที นอกจากจะต้องได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับความต้องการแล้ว อย่าลืมดูว่าเป็นประกันสุขภาพที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยหรือไม่ เพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุดนั่นเอง แต่ถ้าเป็นเรื่องประกันภัยรถยนต์ที่ให้การดูแลแบบครอบคลุมและคุ้มค่า สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.tlt.co.th/service/insurance
อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/knowledge
ข่าวแนะนำ