เกร็ดความรู้

13 ตุลาคม 2564

เทคนิคขับรถขึ้นเขา-ลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้

เทคนิคขับรถขึ้นเขา-ลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้


สำหรับคนมีรถการได้ขับขี่ไปในเส้นทางต่าง ๆ และไปให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย คือความสะดวกสบายที่หลายคนต้องการ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีบางเส้นทางที่เรียกได้ว่า “ปราบเซียน” คนขับรถยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับและคนที่ไม่คุ้นเคยเส้นทางมาก่อน อย่างเช่นการขับรถขึ้นเขา-ลงเขาที่สูงชัน หรือมีทางคดเคี้ยวตามผาสูงชัน


แม้ว่าจะขับรถด้วยเกียร์ออโต้ก็ใช่ว่าจะขับรถขึ้นเขาหรือลงเขาได้อย่างสบายใจ เพราะหากกใช้เกียร์ผิดชีวิตก็เปลี่ยนได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชำนาญเส้นทาง วันนี้ เกร็ดความรู้กับโตโยต้า ลีสซิ่ง จึงมีเทคนิคขับรถขึ้นเขาและลงเขาด้วยเกียร์ออโต้มาฝากกัน   
เทคนิคขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ออโต้


การขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ออโต้นั้นให้เริ่มต้นด้วยเกียร์ D หรือหากเส้นทางชันมาก ก็ควรปรับตำแหน่งเกียร์เป็น D2 หรือ D1 ขึ้นอยู่กับระดับความชัน ณ เวลานั้น ซึ่งเกียร์ D1 หมายถึงเกียร์ต่ำ มักใช้เมื่อขับบนเส้นทางที่มีความลาดชันมาก ส่วนเกียร์ D2 จะมีลักษณะการทำงานคล้ายเกียร์ D1 แต่จะเป็นทางที่ไม่ลาดชันมากนัก


สำหรับการแตะคันเร่งนั้นให้เหยียบเบา ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยส่งให้รถเคลื่อนที่ โดยให้สังเกตรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 2,000-3,500 รอบ และควรใช้ความเร็วที่ประมาณ 50-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ให้เน้นความปลอดภัยเป็นลำดับแรก และที่สำคัญอย่าลืมเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 30-50 เมตรด้วย
เทคนิคขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้


การขับรถลงเขาก็ไม่ต่างจากเทคนิคขับรถขึ้นเขาเพราะเราจะใช้เกียร์ D เหมือนเดิม และปรับไปที่ตำแหน่ง D2 และ D1 ตามระดับความชันในแต่ละช่วง สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เลยก็คือไม่ควรใส่เกียร์ว่าง (เกียร์ N) เป็นอันขาดเพราะรถจะไหลลงเขาด้วยความเร็วสูง ทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ส่วนการแตะเบรกนั้น ให้แตะเบา ๆ เป็นจังหวะ อย่าเหยียบเบรกค้างไว้เพราะจะทำให้ผ้าเบรกไหม้ได้ แต่ให้ใช้การปรับตำแหน่งเกียร์ที่ D2 และ D1 แทน ซึ่งจะช่วยให้ไม่ต้องเหยียบเบรกอยู่ตลอดเวลา และควรรักษาระดับความเร็วระหว่างลงเขาให้อยู่ที่ 40-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง


เคล็ดลับควรรู้ในการขับรถขึ้น-ลงเขา
1. อย่าแซงทางโค้ง
การขับรถขึ้นเขาและลงเขาสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ “มองให้ไกล” กวาดสายตาไปกว้าง ๆ ตามเส้นถนน และเมื่อเข้าจุดอับสายตาอย่างทางโค้งก็ไม่ควรแซงเด็ดขาด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของเราและเพื่อนร่วมทางคนอื่น ๆ ด้วย


2. ใช้เกียร์ต่ำเสมอ
อย่างที่เน้นย้ำกันไปเรื่องเทคนิคการขับรถขึ้นและลงเขาว่าต้องใช้เกียร์ D  และปรับเกียร์ต่ำ (D2 D1) ตามความเหมาะสมกับระดับความชันของถนนแต่ละช่วง


3. ขับรถเลนซ้าย
ขับรถเลนซ้ายเสมอและพยายามขับให้ชิดขอบทางซ้ายเพื่อความปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องอยู่เลนขวา และไม่ควรเร่งเครื่องระหว่างขึ้นเขาหรือลงเขา


4. ให้สัญญาณรถคันอื่น
เมื่อเข้าสู่ทางโค้ง ทางเลี้ยว หรือจุดอับสายตา พยายามบีบแตรหรือใช้สัญญาณไฟอยู่เสมอ เพื่อเป็นการให้สัญญาณเตือนรถคันอื่นที่อาจสวนทางมา
การขับรถขึ้นเขาอาจจะยากสำหรับมือใหม่ แต่หากขับจนคุ้นเคยแล้วก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนี้ อย่าลืมว่าทุกครั้งที่เราขับรถขึ้นหรือลงเขา ต้องมีสติ ไม่ประมาท และใจเย็นอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเอง ผู้โดยสารคนอื่น ๆ และรถคันอื่นที่ขับอยู่บนเส้นทางเดียวกับเราด้วย 


นอกจากนี้ การมีประกันภัยที่ครบวงจรก็จะช่วยให้อุ่นใจยามเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดได้ หากสนใจประกันรถยนต์อย่างครบวงจร*  สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://toyotainsurancebroker.com/index.php


หมายเหตุ - *รายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น เป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด บริษัท โตโยต้า อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด ให้บริการด้านนายหน้าประกันภัยในเครือโตโยต้า ลีสซิ่ง

 

อ่านเกร็ดความรู้อื่นๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/news/knowledge

กลับสู่หน้าหลัก

ข่าวแนะนำ