เกร็ดความรู้
14 ธันวาคม 2564
อย่ามองข้าม! พฤติกรรมเสี่ยงขณะขับรถก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
ความสำคัญอันดับแรก ๆ ของการใช้รถใช้ถนนก็คือความระมัดระวังและไม่ประมาท แต่บางครั้งระหว่างขับรถหลายคนก็อาจทำพฤติกรรมเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นเพราะความเคยชินหรือคิดว่าถึงทำก็ไม่เกิดอุบัติเหตุ และนี่พฤติกรรมเสี่ยงที่ไม่ควรทำในขณะขับรถ เพราะอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
1. ฝ่าฝืนกฎจราจร
กฎจราจรคือสิ่งสำคัญที่สุดเพราะกฎระเบียบเหล่านี้ถูกบัญญัติขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ดังนั้นการฝ่าฝืนกฎจราจรจึงเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมา
2. เมาแล้วขับ
คนที่ดื่มสุราเป็นประจำอาจคิดว่าตนเองดื่มเพียงเล็กน้อย ยังสามารถประคองสติและขับรถได้ แต่ด้วยความคิดแบบนี้จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยไม่คาดคิด ดังนั้นเมื่อใดที่ดื่มสุราหรือของมึนเมาก็ควรเลือกใช้บริการรถสาธารณะหรือเดินทางไปพร้อมกับรถของคนอื่น ๆ จะดีกว่า
3. เล่นโทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ขาดไม่ได้ไปแล้วในปัจจุบัน แต่การเล่นโทรศัพท์ระหว่างขับรถถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงอย่างมากเพราะทำให้คนขับเสียสมาธิ อีกทั้งยังเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ยังบัญญัติไว้ด้วยว่าหากฝ่าฝืนใช้งานโทรศัพท์มือถือระหว่างการขับขี่ จะมีโทษปรับ 400 -1,000 บาท
4. เปลี่ยนเลนกะทันหัน
การขับรถด้วยความเร็วและเปลี่ยนเลนหรือแซงกระทันหัน หรือที่เรียกว่า “ปาดหน้า” เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงอุบัติเหตุอย่างมาก เพราะรถคันหลังอาจเบรกไม่ทันหรือต้องเบรกกะทันหันจนเกิดอุบัติเหตุรุนแรง และเกิดความสูญเสียตามมาได้
5. วางขวดน้ำดื่มไม่เป็นที่
ขวดน้ำดื่มอันตรายมากกว่าที่คิดเพราะหากวางขวดน้ำไม่เป็นที่แล้วขวดน้ำนั้นกลิ้งไปติดใต้เบรกอาจทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรกได้จนเกิดอุบัติเหตุตามมา นอกจากนี้การก้มไปเก็บขวดน้ำใต้เบาะก็อาจทำให้เสียสมาธิระหว่างขับขี่ด้วย
6. ขับรถตอนง่วงนอน
การอดนอนไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้เสี่ยงต่อการหลับในได้แล้ว ดังนั้นหากรู้ตัวว่าง่วง เหนื่อย เพลีย หรือนอนไม่พอ ห้ามขับรถเด็ดขาดเพราะถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่อันตรายมาก ทางที่ดีควรจอดพักบริเวณจุดจอดหรือปั๊มน้ำมันเพื่องีบหลับก่อนจะดีกว่า
7. ขับรถจี้ท้ายคันหน้า
การขับรถจี้ท้ายคันหน้าเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เกิดเสี่ยงอุบัติเหตุเพราะหากมีเหตุให้ต้องเบรกขึ้นมา รถที่ตามมาก็อาจเบรกไม่ทันจนเกิดอุบัติเหตุ สร้างความเสียหายทั้งต่อคนและรถได้ ทางที่ดีควรเว้นระยะห่างจากคันหน้าประมาณ 60 เมตรจึงจะปลอดภัยมากกว่า
8. เปิดไฟสูงเวลามีรถคันอื่นสวนเลนมา
การเปิดไฟสูงหรือไฟตัดหมอกในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมเป็นหนึ่งในพฤติกรรมเสี่ยง เพราะอาจไปรบกวนทัศนวิสัยและการมองเห็นของรถคันที่สวนมาจนเกิดอุบัติเหตุได้ ที่สำคัญการเปิดไฟสูงควรเปิดในสถานการณ์จำเป็นเท่านั้น เช่น เวลาฝนตกหนักหรือเวลาที่ขับรถในที่มืด ไม่มีแสงไฟ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้เป็นเพียงปัจจัยที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น เพราะหากรถคันอื่นไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร หรือขับรถอันตรายก็อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรมีประกันภัยรถยนต์เพื่อความอุ่นใจไว้ด้วย เพราะมักจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับผู้เอาประกัน และหากกำลังมองหาประกันรถยนต์อย่างครบวงจร* สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://toyotainsurancebroker.com/index.php
หมายเหตุ -*รายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น เป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด บริษัท โตโยต้า อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด ให้บริการด้านนายหน้าประกันภัยในเครือโตโยต้า ลีสซิ่ง
อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/news/knowledge
ข่าวแนะนำ
© 2018 สงวนสิทธิ์โดย บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด