เกร็ดความรู้
18 พฤษภาคม 2567
อบรมใบขับขี่ออนไลน์ ทำได้ง่าย ๆ บนมือถือ
เมื่ออยู่ในยุคดิจิทัล จะทำอะไรก็สะดวก รวดเร็วขึ้นอย่างมากมาย การอบรมใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อการต่อใบขับขี่ก็เช่นกัน จากสมัยก่อนที่ต้องเสียเวลาทั้งวันไปนั่งฟังการบรรยายที่ขนส่ง เดี๋ยวนี้ แค่มีมือถือเครื่องเดียว ก็สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ได้ง่ายๆ ผ่านระบบ DLT e-Learning ที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและเงินด้วย
ระบบ DLT e-Learning
คือ ระบบการอบรมใบอนุญาตขับรถออนไลน์ ของกรมการขนส่งทางบก ที่เปิดให้ผู้ขับขี่สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อต่ออายุใบขับขี่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเสียเวลาไปที่ขนส่ง
สิ่งที่ต้องเตรียม ก่อนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์
• คอมพิวเตอร์, แท็ปเล็ต หรือมือถือ ไม่จำเป็นต้องสเป็กสูงก็ใช้ได้ เนื่องจากระบบของ DLT e-Learning ไม่ได้กินสเป็กเครื่องมากมาย
• ไวไฟหรือเน็ตมือถือที่มีความเสถียร สามารถดูวิดีโอได้แบบไม่หลุดกลางคัน
• ที่นั่งสบายและเงียบสงบ เพื่อให้มีสมาธิในการดูวิดีโอการอบรมใบขับขี่ออนไลน์
ขั้นตอนง่ายๆ การอบรมใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อต่อใบขับขี่ มีดังนี้
1. เข้าสู่ระบบ
ใช้อุปกรณ์ที่เตรียมไว้ เช่น มือถือ โดยเปิดบราวเซอร์ที่สะดวก ซึ่งที่ง่ายสุดก็คือ Google Chrome จากนั้นไปที่ลิงก์เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/ หรือดาวน์โหลดแอป DLT e-Learning บนมือถือ
2. ลงทะเบียนสมาชิก
โดยกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ฯลฯ เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนว่าเป็นเจ้าของข้อมูลตัวจริง จากนั้นกดยืนยัน
3. เลือกประเภทใบขับขี่ที่ต้องการอบรม
ขั้นตอนนี้จะให้เลือกประเภทใบขับขี่ที่ต้องการอบรม เพื่อนำไปต่ออายุ เช่น ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ฯลฯ
ตัวอย่างประเภทใบขับขี่และระยะเวลาอบรม
• ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ใช้เวลาในการอบรมประมาณ 1 ชั่วโมง
• ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ ใช้เวลาในการอบรมประมาณ 1 ชั่วโมง
• ใบอนุญาตขับขี่รถบรรทุก ใช้เวลาในการอบรมประมาณ 2 ชั่วโมง
• ใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ ใช้เวลาในการอบรมประมาณ 3 ชั่วโมง
4. ศึกษาเนื้อหาการอบรม
ก่อนจะทำแบบทดสอบ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ควรศึกษาเนื้อหาการอบรมออนไลน์อย่างละเอียด ซึ่งเนื้อหาจะครอบคลุมเกี่ยวกับกฎจราจร สัญญาณไฟจราจร หน้าที่ของผู้ขับขี่ ฯลฯ
5. ทำแบบทดสอบก่อนการอบรม
แบบทดสอบก่อนการอบรมนี้ จะมีทั้งหมด 3 ข้อ ผู้ทำไม่ต้องกังวลว่าจะทำผิดพลาด แล้วจะไม่ได้อมรมต่อ เนื่องจากเป็นการทดสอบเพื่อสร้างทัศนคติที่ดี ต่อการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน และเป็นการสร้างความเข้าใจในเรื่องที่จำเป็นสำหรับการขับขี่ เช่น การสังเกตสัญญาณไฟจราจร
6. ดูวิดีโออบรมใบขับขี่ออนไลน์
เนื้อหาในวิดีโอ คือสิ่งที่ผู้ขับขี่หรือต่อใบขับขี่จำเป็นต้องรู้ เช่น มารยาทในการขับขี่บนท้องถนน กฎหมาย กติกา มารยาทต่าง ๆ บนท้องถนน ซึ่งในการดูวิดีโอนี้ เมื่อเปิดแล้วจะต้องดูจนจบ ไม่สามารถกดข้าม หรือปิดมือถือ หากดูไม่จบจะต้องเริ่มดูใหม่ตั้งแต่ต้นเท่านั้น
7. ทำแบบทดสอบหลังอบรมใบขับขี่ออนไลน์จบ
หลังจากดูวิดีโอจบ จะมีแบบทดสอบหลังการอบรมขึ้นมาให้ทำ 3 ข้อ เพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจของผู้เข้าอบรม
8. พิมพ์ใบรับรอง
หลังทำบททดสอบการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ผู้อบรมจะรู้ผลทันที ว่าผ่านหรือไม่ที่หน้าเว็บไซต์ เมื่อผ่านการทดสอบแล้ว สามารถพิมพ์ใบรับรองหรือบันทึกหน้าจอว่าผ่านการอบรมได้
ถือเป็นวิธีที่สะดวกมาก ๆ กับการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ในยุคดิจิทัลเลยก็ว่าได้ ดังนั้นใครถึงเวลาต้องต่อใบขับขี่ ลองใช้ระบบออนไลน์ดู แล้วจะรู้สึกเลยว่าชีวิตง่ายขึ้น
อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/knowledge
ข่าวแนะนำ
© 2018 สงวนสิทธิ์โดย บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด