เกร็ดความรู้

19 กรกฎาคม 2564

เติมน้ำมันที่ปั๊มทำไมต้องดับเครื่องยนต์

เติมน้ำมันที่ปั๊มทำไมต้องดับเครื่องยนต์


เคยสังเกตหรือไม่ว่าทุกครั้งที่เราไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม  พนักงานที่ปั๊มจะแจ้งให้เราดับเครื่องยนต์ ซึ่งความจริงแล้วการดับเครื่องยนต์ในขณะเติมน้ำมันเป็นกฎสากลที่ทั่วโลกใช้กันอยู่แล้ว แต่ผู้ขับขี่บางคนก็ไม่อยากดับเครื่องให้เสียเวลา วันนี้ เราจึงมีคำตอบมาฝากกันว่าเหตุใดถึงต้องดับเครื่องยนต์ขณะที่เติมน้ำมันในปั๊ม 


มาตรฐานความปลอดภัยที่ใช้กันทั่วโลก
เมื่อนำรถไปเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันหรือปั๊มน้ำมัน เราจะสังเกตเห็นป้ายเตือนเป็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ให้ดับเครื่องยนต์, ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะเติมน้ำมัน, ห้ามสูบบุหรี่ รวมไปถึงห้ามก่อประกายไฟ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นมาตรฐานเกี่ยวกับความปลอดภัยที่ใช้กันทั่วโลก เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการที่ไอน้ำมันลุกติดไฟได้ แต่ผู้ขับขี่รถบางคนยังละเลย และไม่ปฏิบัติตาม จึงได้รับบาดเจ็บโดยไม่จำเป็นเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น  


ขณะเติมน้ำมันผู้ขับขี่ควรลงจากรถ
นอกจากดับเครื่องรถยนต์แล้ว ผู้ขับขี่ควรลงจากรถมาดูด้วยว่าพนักงานเติมน้ำมันถูกประเภทหรือไม่ เพราะหากเติมน้ำมันไม่ตรงกับการใช้งานของรถ เช่นกรณีเติมน้ำมันเบนซินและดีเซลสลับกัน จะส่งผลต่อเครื่องยนต์ได้ เพราะระดับการเผาไหม้ของน้ำมันทั้งสองประเภทไม่เท่ากัน จึงทำให้เครื่องยนต์สะดุด และเมื่อจังหวะลูกสูบของรถยนต์ไม่สามารถทำงานต่อได้ จึงทำให้เครื่องดับหลังจากสตาร์ทรถไปได้ไม่นาน ดังนั้นจึงควรดับเครื่องยนต์แล้วลงมายืนดูว่าพนักงานหยิบหัวจ่ายถูกตามที่เราต้องการหรือไม่ เพียงเท่านี้ปัญหาเติมน้ำมันผิดก็จะไม่เกิดขึ้น 


อย่าประมาท ดับเครื่องปลอดภัยกว่า 
การดับเครื่องยนต์ขณะเติมน้ำมัน ถือเป็นการป้องกันการเกิดไฟลุกไหม้จากไอน้ำมันที่ระเหยออกจากถัง เนื่องจากปกติแล้วรถยนต์ทุกคันมีโอกาสเสี่ยงที่สายไฟของระบบในรถยนต์เกิดประกายไฟ การที่รถยังคงสตาร์ทอยู่ขณะเติมน้ำมันจึงค่อนข้างอันตรายไม่น้อย นอกจากนี้ผู้ขับขี่รถควรงดใช้โทรศัพท์มือถือขณะเติมน้ำมันด้วย เพราะอาจเกิดการลัดวงจรของแบตเตอรี่ในมือถือได้


สรุปแล้วเมื่อคุณเติมน้ำมันควรต้องดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง เพราะอาจมีชิ้นส่วนใดของรถที่เป็นเหตุให้เกิดความร้อนจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ด้วยเหตุนี้ การดับเครื่องยนต์ขณะเติมน้ำมันในทุกครั้งจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและคนรอบข้าง อีกทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลได้ เพียงเพราะความชะล่าใจหรือประมาทจนเกินไป 

กลับสู่หน้าหลัก

ข่าวแนะนำ