เกร็ดความรู้

2 มิถุนายน 2568

เทคนิคป้องกันข้อมูลส่วนตัวไม่ให้รั่วไหล เมื่อออนไลน์

เทคนิคป้องกันข้อมูลส่วนตัวไม่ให้รั่วไหล เมื่อออนไลน์


โลกออนไลน์แม้จะสะดวกสบาย แต่ก็เต็มไปด้วยอันตรายจากมิจฉาชีพ ที่จ้องจะขโมยข้อมูลส่วนตัวของเรา ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อ ต้องรู้จักป้องกันตัวเอง โตโยต้า ลีสซิ่ง จะมาแชร์เทคนิคป้องกันข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล เสริม ความปลอดภัยออนไลน์ และปกป้องข้อมูลส่วนตัวออนไลน์ ให้สามารถท่องโลกไซเบอร์ได้อย่างอุ่นใจ ไม่ต้องกลัวข้อมูลรั่วไหลอีกต่อไป
1. สร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำกัน ด้วยวิธีการดังนี้
•    ใช้รหัสผ่านที่ยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษร ผสมผสานตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ
•    อย่าใช้รหัสผ่านเดียวกันกับทุกบัญชี หากบัญชีใดบัญชีหนึ่งถูกแฮ็ก ข้อมูลในบัญชีอื่น ๆ ก็จะตกอยู่ในอันตรายด้วย
•    เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ อย่างน้อยทุก ๆ 3 เดือน
2. ระวัง Wi-Fi สาธารณะ
หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ หากจำเป็นต้องใช้ Wi-Fi สาธารณะ ควรใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสข้อมูลของคุณ
3. ระวังลิงก์และอีเมลที่น่าสงสัย
อย่าคลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น อีเมลสแปม ข้อความจากคนแปลกหน้า หรือโฆษณาที่ดูน่าสงสั ควรตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์ให้ดี ก่อนที่จะกรอกข้อมูลส่วนตัว เว็บไซต์ที่ปลอดภัยมักจะมี HTTPS ที่อยู่หน้า URL
4. อัปเดตซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
การอัปเดตซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันเป็นประจำ จะช่วยป้องกันช่องโหว่ด้านความปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็ก
5. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย
จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย เช่น เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ และวันเกิด อย่าแชร์ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญบนโซเชียลมีเดีย เช่น เลขบัตรเครดิต หรือเลขบัญชีธนาคาร
6. ใช้โปรแกรม Antivirus และ Anti-malware
ติดตั้งโปรแกรม Antivirus และ Anti-malware และอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไวรัสและมัลแวร์ที่อาจขโมยข้อมูลส่วนตัว
7. ระวังการให้สิทธิ์แอปพลิเคชั่น
ก่อนที่จะติดตั้งแอปพลิเคชัน ควรตรวจสอบสิทธิ์ที่แอปพลิเคชันร้องขอ และให้สิทธิ์เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น อย่าให้สิทธิ์ที่ไม่จำเป็น เช่น การเข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อ หรือการเข้าถึงกล้อง
8. เปิดใช้งาน Two-Factor Authentication
Two-Factor Authentication หรือ การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชี โดยต้องยืนยันตัวตนผ่านสองช่องทาง เช่น รหัสผ่านและรหัส OTP ที่ส่งไปยังโทรศัพท์มือถือ
9. ล้างประวัติการท่องเว็บและคุกกี้เป็นประจำ
การล้างประวัติการท่องเว็บและคุกกี้เป็นประจำ จะช่วยป้องกันการติดตามข้อมูลการท่องเว็บ และลดความเสี่ยงที่จะถูก targeting โฆษณา
10. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยออนไลน์
ติดตามข่าวสารและศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับความปลอดภัยออนไลน์ เพื่อรับทราบถึงภัยคุกคามใหม่ ๆ และวิธีป้องกันตัวเอง
การป้องกันข้อมูลส่วนตัวไม่ให้รั่วไหล เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องใส่ใจ โดยเฉพาะในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยให้ท่องโลกไซเบอร์ได้อย่างปลอดภัย และมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวจะไม่ตกไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพ


อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/knowledge

กลับสู่หน้าหลัก

ข่าวแนะนำ