เกร็ดความรู้
7 มกราคม 2565
อยากประหยัดงบ ทำประกันชั้น 3 หรือ 3 พลัส แบบไหนดีกว่ากัน?
การเลือกประกันรถอาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน เพราะประกันแต่ละชั้นก็ให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีประกันบางชั้นที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกัน อย่างประกันชั้น 3 กับประกันชั้น 3 พลัส สำหรับคนอยากประหยัดงบอาจอยากรู้ว่าควรเลือกทำประกันแบบไหนดี? ลองมาดูรายละเอียดความคุ้มครองของประกันทั้ง 2 แบบ รวมถึงความแตกต่างไว้เป็นตัวช่วยในการเลือกทำประกันให้เหมาะสมกันได้เลย
ประกันชั้น 3 ให้ความคุ้มครองดังต่อไปนี้
• ค่าซ่อมแก่คู่กรณี
• คุ้มครองต่อชีวิตและร่างกายบุคคลภายนอกหรือของคู่กรณี หากเสียชีวิตบริษัทประกันจะชดใช้ให้ตามวงเงินที่กรมธรรม์ระบุไว้หรือไม่ต่ำกว่า 300,000 บาทต่อคน
• คุ้มครองต่อทรัพย์สินของผู้ที่ได้รับความเสียหาย เช่น รถยนต์ของคู่กรณี
• ไม่ครอบคลุมกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ หรืออุบัติภัยทางธรรมชาติอื่น ๆ
ประกันชั้น 3 พลัส ให้ความคุ้มครองดังต่อไปนี้
• ความคุ้มครองของประกันภัยชั้น 3 พลัสนั้น รู้หรือไม่ว่าคล้ายคลึงกับประกันชั้น 1 แต่จะให้ความคุ้มครองทรัพย์สิน ชีวิต ร่างกาย ของบุคคลภายนอก จากกรณีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนโดยไม่คาดคิด
• คุ้มครองรถที่เอาประกันตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่ต้องเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากกรณีรถชนรถเท่านั้น
• หากรถที่เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ผู้เอาประกันต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) จำนวน 2,000 บาทต่อครั้ง (แต่บริษัทประกันบางแห่งจะไม่เรียกเก็บค่าส่วนแรก โดยจะไปเพิ่มราคาเบี้ยประกันรถแทน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท)
ความแตกต่างระหว่างประกันชั้น 3 และชั้น 3 พลัส
ความแตกต่างระหว่างประกันชั้น 3 และประกันรถชั้น 3 พลัสนั้นมีจุดที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย เพราะความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3 พลัสนั้นเหมือนกับประกันชั้น 3 ทุกอย่าง เพียงแต่ประกันรถชั้น 3 พลัสจะเพิ่มเติมความคุ้มครองในส่วนของรถคันที่เอาประกันหรือคุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันด้วย ขณะที่ประกันชั้น 3 จะคุ้มครองแค่ส่วนของคู่กรณีเท่านั้น
อย่างไรก็ตามความคุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกันของประกันรถชั้น 3 พลัส ก็มีข้อจำกัดด้านวงเงินค่าซ่อมคือจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 – 200,000 บาท และจะคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบรถชนกันเท่านั้น ไม่รวมอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีหรืออื่น ๆ
ประกันชั้น 3 และชั้น 3 พลัส เป็นประกันรถที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับคนที่ต้องการทำประกันภัยรถยนต์แบบประหยัด ไม่อยากจ่ายเงินเกินความจำเป็น และเลือกคุ้มครองเฉพาะในส่วนที่คิดว่าจำเป็นต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวันเท่านั้น ก็นับว่าเป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีความคุ้มครองใกล้เคียงกัน แต่ก็แตกต่างกันในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งใครที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและเงื่อนไขต่าง ๆ ได้จากบริษัทประกันเพื่อความมั่นใจก่อนทำประกัน
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าการทำประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพราะสามารถช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ หากสนใจประกันรถยนต์อย่างครบวงจร* สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://toyotainsurancebroker.com/index.php
หมายเหตุ -*รายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น เป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด บริษัท โตโยต้า อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด ให้บริการด้านนายหน้าประกันภัยในเครือโตโยต้า ลีสซิ่ง
อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/news/knowledge
ข่าวแนะนำ
© 2018 สงวนสิทธิ์โดย บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด