เกร็ดความรู้
10 กันยายน 2564
ทำอย่างไรดี? เมื่อรถโดนน้ำท่วม
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนักจนทำให้น้ำท่วมรถโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ยิ่งถ้าสถานการณ์เกิดขึ้นช่วงกลางคืนกว่าจะรู้ตัวว่ารถน้ำท่วมก็ไม่ทันการเสียแล้ว แต่หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ควรทำอย่างไร เกร็ดความรู้โดยโตโยต้า ลีสซิ่ง มีข้อแนะนำดี ๆ มาฝากกัน เพื่อช่วยไม่ให้เกิดความเสียหายกับรถของคุณไปมากกว่าเดิม
ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์
หลังจากรถน้ำท่วมสิ่งที่หลายคนเป็นห่วง คือรถจะยังใช้งานได้หรือไม่ ซึ่งการสตาร์ทเครื่องยนต์หรือเปิดไฟหน้ารถทันทีหลังจากที่น้ำลดนั้นไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายจากไฟฟ้าลัดวงจรได้
ปลดขั้วแบตเตอรี่
สิ่งที่ควรทำทันทีหลังจากน้ำท่วมรถของคุณ คือการถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าไหลเข้าสู่ระบบรถยนต์หรือเครื่องยนต์ ซึ่งน้ำที่ท่วมเข้ามาใต้กระโปรงรถอาจส่งทำให้ประจุไฟในแบตเตอรี่รั่วออกมาจนหมดด้วย
ตรวจเช็กของเหลวต่าง ๆ
ควรตรวจเช็กน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ของเหลวต่าง ๆ ภายในห้องเครื่องด้วยเช่นกัน เพราะอาจทำมีน้ำสกปรกหรือสิ่งสกปรกไหลเข้ามาปะปนได้ จึงควรรีบถ่ายน้ำมันเครื่องทันที แต่หากไม่มีความรู้ด้านการถ่ายน้ำมันเครื่อง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างที่ชำนาญดำเนินการให้
ทำความสะอาดรถ
แน่นอนว่าเมื่อน้ำท่วมรถก็จะมีเศษดิน ทราย ใบไม้ หรือเศษพลาสติกมาติดบริเวณรถและภายในรถได้ จึงควรทำความสะอาดรถทั้งภายนอกภายใน และควรเปิดประตูรถทุกบาน เพื่อให้อากาศถ่ายเท หรือนำรถไปจอดกลางแดดเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นอับภายในห้องโดยสาร ขณะที่พรมหรือเบาะก็ควรถอดไปซักหรือทำความสะอาดด้วยเช่นกัน โดยอาจจำเป็นต้องให้มืออาชีพอย่างร้านคาร์แคร์ช่วยจัดการให้
ตรวจสภาพรถอย่างละเอียด
เมื่อเจอกับสถานการณ์น้ำท่วมรถแบบนี้ สิ่งที่ควรให้ควรสำคัญคือการนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ เพื่อตรวจสภาพเครื่องยนต์และระบบทำงานต่าง ๆ เพราะน้ำท่วมอาจสร้างความเสียหายให้รถคันโปรดของเราได้ ทั้งระบบเกียร์ ระบบเครื่องยนต์ และระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในรถ ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในระหว่างที่ขับรถอยู่ได้
แจ้งประกันภัยรถยนต์
หากทำประกันภัยรถยนต์ไว้ อย่าลืมโทรแจ้งบริษัทประกันภัยให้รับทราบ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้มาประเมินความเสียหายเบื้องต้น ซึ่งจะช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากขึ้นในเรื่องการคุ้มครองความเสียหายและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ หากรถได้รับความเสียหายอย่างหนักต้องนำเข้าอู่ซ่อมรถ ซึ่งประกันภัยชั้น 1 หรือแม้แต่ชั้น 2+ และชั้น 3+ ในบางแพกเกจจะครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วมด้วย
ดังนั้นในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ใครที่กำลังมองหาประกันภัยรถยนต์แบบครบวงจร* เพื่อให้คุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับรถของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ https://toyotainsurancebroker.com/index.php
*รายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น เป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด บริษัท โตโยต้า อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด ให้บริการด้านนายหน้าประกันภัยในเครือโตโยต้า ลีสซิ่ง
ข่าวแนะนำ
© 2018 สงวนสิทธิ์โดย บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด