เกร็ดความรู้

2 กรกฎาคม 2564

ขับรถป้ายแดงต้องรู้กฎ ถ้าไม่อยากโดนจับปรับ 

ขับรถป้ายแดงต้องรู้กฎ ถ้าไม่อยากโดนจับปรับ 


รถป้ายแดงมักจะดึงดูดความสนใจจากผู้ขับขี่บนท้องถนนเป็นพิเศษ  เพราะเราต่างก็ทราบดีว่าเป็นรถที่เพิ่งออกมาใหม่ และมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นมือใหม่หัดขับ หรือเพิ่งมีรถเป็นของตนเองคันแรก แต่ถ้าไม่อยากถูกจับปรับโดยไม่รู้ว่าทำความผิดอะไร ก็จำเป็นต้องศึกษาข้อควรรู้สำหรับกฎหมายรถป้ายแดงอย่างละเอียด  เพื่อจะได้ไม่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่รู้ตัว


1.สมุดคู่มือ รถป้ายแดงมักจะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษเวลาที่มีด่านตรวจจราจร ดังนั้น จึงควรพกสมุดคู่มือติดรถไว้ในรถเสมอ และในสมุดนั้นจะต้องบันทึกรายละเอียดข้อมูลไว้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้ขับขี่ ยี่ห้อรถยนต์ หมายเลขเครื่องยนต์หรือหมายเลขตัวรถยนต์ ระยะเวลาในการใช้งาน สถานที่ที่จะไป หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจจะได้ใช้ยืนยันเป็นหลักฐานได้
2.ระยะเวลาและระยะทาง รถที่ยังคงมีป้ายทะเบียนเป็นสีแดงอยู่นั้นมีกฎห้ามใช้งานเกิน 30 วันหลังจากที่มีการออกมาหรือห้ามใช้งานเป็นระยะทางเกินกว่า 3,000 กิโลเมตร หากใช้งานเกินกว่าวันระยะทางที่กำหนดจะมีความผิดตามกฎหมายรถป้ายแดงที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติรถยนต์ปีพ.ศ. 2552 ซึ่งมีโทษปรับเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท 
3.ช่วงเวลา หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว รถป้ายแดงจะไม่สามารถขับบนท้องถนนได้ โดยรถประเภทนี้จะสามารถใช้งานได้ในช่วงเวลา 06.00 น.ไปจนถึง 18.00 น.เท่านั้น แต่บางครั้งก็อนุโลมให้สามารถขับขี่ได้จนถึง 20.00 น. เนื่องจากป้ายสีแดงนั้นทำให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนไม่สามารถเห็นป้ายทะเบียนได้อย่างชัดเจน และสามารถนำเอารถไปกระทำผิดกฎหมายได้ง่าย หากฝ่าฝืนจะมีความผิดและมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท ซึ่งหากมีเหตุจำเป็น ต้องขออนุญาตจากนายทะเบียนก่อน
4.ขับข้ามเขตจังหวัด ใครที่ได้รถยนต์คันใหม่มาแล้วอยากจะขับไปต่างจังหวัดต้องอ่านกฎข้อนี้ เพราะรถใหม่ไม่สามารถขับออกนอกเขตจังหวัดที่ระบุในป้ายทะเบียนได้ และหากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดโทษปรับ 10,000 บาท 


อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งที่ผู้ขับขี่รถป้ายแดงไม่ทันได้รู้ว่ารถป้ายแดงเป็นรถประเภทพิเศษที่มีข้อกำหนดการใช้งานแตกต่างจากรถทั่วไป และมีกฎหมายโดยเฉพาะ ดังนั้น จึงควรรีบเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นป้ายขาวโดยเร็ว เพราะป้ายแดงมีกำหนดให้ใช้งานได้เพียง 30 วันเท่านั้น หากไม่ยอมเปลี่ยนเสียที ก็อาจหมายถึงคุณมีเจตนาที่จะเลี่ยงจ่ายภาษีประจำปี ซึ่งถือว่ามีความผิดตามพรบ.รถยนต์ มาตรา 6 ฐานใช่รถที่ยังไม่จดทะเบียน  อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการถูกขโมยรถ และสวมทะเบียนได้โดยไม่รู้ตัวด้วย 

กลับสู่หน้าหลัก

ข่าวแนะนำ