เกร็ดความรู้

28 มีนาคม 2567

แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ เช็กอาการอย่างไร

แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ เช็กอาการอย่างไร


ทราบหรือไม่รถจะสตาร์ทติดได้อยู่ที่แบตเตอรี่รถยนต์ ดังนั้นจึงนับเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ต้องดูแลรักษาและตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ รถก็อาจสตาร์ทติดยากหรือสตาร์ทไม่ติดเลยก็ได้ วันนี้ โตโยต้า ลีสซิ่ง จะมาบอกวิธีเช็กแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ เพื่อให้สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ทันเวลา


หน้าที่ของแบตเตอรี่รถยนต์ คืออะไร
แบตเตอรี่รถยนต์ทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับระบบไฟฟ้าในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทเครื่องยนต์, ไฟหน้า, ไฟท้าย, วิทยุ, เครื่องเสียง, กระจกไฟฟ้า เป็นต้น แบตเตอรี่รถยนต์ประกอบด้วยแผ่นโลหะสองชนิด คือ แผ่นตะกั่วและแผ่นพลวง ที่อยู่ภายในสารอิเล็กโทรไลต์ที่เป็นกรดซัลฟิวริก เมื่อแบตเตอรี่ทำงาน แผ่นตะกั่วและแผ่นพลวงจะเกิดปฏิกิริยาเคมี ส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลออกมา


ประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์มีอะไรบ้าง
1.แบตเตอรี่แบบน้ำกลั่น เป็นแบตเตอรี่ที่ภายในบรรจุน้ำกลั่นไว้ ผู้ใช้จะต้องคอยเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ
2.แบตเตอรี่แบบแห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่ภายในบรรจุสารอิเล็กโทรไลต์ ที่เป็นเจลหรือกึ่งของเหลว ผู้ใช้ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นให้แบตเตอรี่
3.แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่มีการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟจากโรงงานมาแล้ว แต่ก็ยังมีรูสำหรับเติมน้ำกลั่นด้วย ทำให้ต้องเติมน้ำกลั่นเพิ่มบ้างประมาณ 1-2 ครั้งต่อปี ราคาถูกกว่าแบบแห้งและดูแลรักษาง่ายกว่า แต่มีราคาสูงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำกลั่น
4.แบตเตอรี่แบบไฮบริด เป็นแบตเตอรี่ที่พัฒนามาจากแบตเตอรี่แบบน้ำ ทำมาจากตะกั่วและแคลเซียมเฉพาะแผ่นธาตุลบ เพื่อแก้ไขข้อเสียของแบตเตอรี่แบบน้ำที่น้ำกลั่นจะระเหยเร็ว ซึ่งแบตเตอรี่แบบไฮบริดจะใช้งานได้นานกว่าและไม่ต้องกังวลว่าต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย ๆ 


วิธีเช็กแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ
•    เช็กจากอาการรถสตาร์ทติดยาก  อาการแรกที่สังเกตได้ง่ายที่สุดคือ รถสตาร์ทติดยาก โดยเฉพาะในตอนเช้าหรือหลังจากจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ สาเหตุอาจเป็นเพราะแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ไม่สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอ
•    เช็กไฟหน้าไม่สว่าง ไฟหน้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องใช้ไฟจากแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ไฟหน้าอาจไม่สว่างเท่าเดิมหรือสว่างน้อยลง
•    เช็กจากระบบไฟฟ้าที่ทำงานผิดปกติ หากแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ ระบบไฟฟ้าอื่น ๆ ภายในรถ อย่าง กระจกไฟฟ้า, วิทยุ, เครื่องเสียง เป็นต้น อาจทำงานผิดปกติ เช่น กระจกไฟฟ้าทำงานช้าลงหรือเปิด-ปิดแล้วฝืด, วิทยุมีเสียงเบาลง หรือเครื่องเสียงทำงานไม่ปกติ เป็นต้น
•    เช็กสีของน้ำกลั่น หากน้ำกลั่นในแบตเตอรี่มีสีขุ่นหรือมีตะกอนลอยอยู่ แสดงว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้ว
•    เช็กระดับน้ำกลั่น ระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ควรอยู่ในระดับที่กำหนด หากระดับน้ำกลั่นต่ำ อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
•    แบตเตอรี่บวม ถ้าแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ มักจะสังเกตได้จากขั้วแบตเตอรี่ที่บวมหรือนูนออกมา


วิธีป้องกันแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ
นอกจากหมั่นเช็กอาการแบตเตอรี่เป็นประจำแล้ว ยังมีวิธีที่สามารถป้องกันแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพได้ดังนี้
•    หลีกเลี่ยงการสตาร์ทรถบ่อย ๆ เพราะการสตาร์ทรถบ่อย ๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
•    ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น เมื่อไม่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถ ควรปิดสวิตช์ไฟหรือถอดปลั๊กออก เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่ทำงานหนักจนเกินไป
•    รักษาความสะอาดแบตเตอรี่ ควรทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ จะช่วยไม่ให้เกิดการกัดกร่อนและเสื่อมสภาพได้ง่าย
•    ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ อย่างน้อยเดือนละครั้ง หากระดับน้ำกลั่นลดลงต่ำกว่าขีดที่กำหนด ให้เติมน้ำกลั่นให้เต็ม 
อาการแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพนั้นสามารถสังเกตได้ง่าย หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ควรรีบตรวจสอบแบตเตอรี่ทันที เมื่อพบว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทันที เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้งาน จนอาจทำให้เกิดอันตรายได้ 


อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/knowledge

กลับสู่หน้าหลัก

ข่าวแนะนำ