เกร็ดความรู้

26 กุมภาพันธ์ 2568

รู้หรือไม่? สัญญาณไฟรถยนต์กำลังบอกอะไร

การขับขี่รถยนต์ให้ปลอดภัย ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับทักษะการขับ แต่การเข้าใจสัญญาณไฟรถยนต์ หรือไฟเตือนรถยนต์ก็สำคัญมาก ๆ เพราะจะเป็นการบอกถึงปัญหา สถานะ หรือสิ่งที่ควรทำ เพื่อรักษาความปลอดภัยของรถและตัวเราเอง โตโยต้า ลีสซิ่ง จะพาไปรู้จักสัญลักษณ์ไฟรถยนต์ ต่าง ๆ แบบเข้าใจง่าย พร้อมเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ
1. ไฟเตือนเครื่องยนต์ (Check Engine Light)
ลักษณะ: รูปเครื่องยนต์
ไฟนี้จะบอกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ เช่น เซ็นเซอร์เสีย, ระบบไอเสียมีปัญหา หรือระบบการเผาไหม้ผิดปกติ หากเห็นไฟนี้ ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบ
2. ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง
ลักษณะ: รูปหยดน้ำมัน
เป็นสัญญาณบอกว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับต่ำ หรือแรงดันน้ำมันเครื่องผิดปกติ หากไฟนี้ติดขึ้นมา อย่าเพิ่งขับต่อไกล ๆ เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหาย ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องทันที
3. ไฟเตือนเบรก (Brake Warning Light)
ลักษณะ: วงกลมมีตัวอักษร “P” หรือ “!” อยู่ตรงกลาง
เป็นการแจ้งว่าระบบเบรกมีปัญหา เช่น ผ้าเบรกบาง, น้ำมันเบรกต่ำ หรือเบรกมือถูกดึงอยู่ หากไฟนี้ติดขณะขับ ควรหยุดรถทันทีและตรวจสอบ
4. ไฟเตือนแบตเตอรี่
ลักษณะ: รูปแบตเตอรี่
สัญญาณแจ้งว่าระบบไฟฟ้า หรือการชาร์จไฟในแบตเตอรี่มีปัญหา เช่น ไดชาร์จเสีย, สายไฟหลวม หรือแบตเตอรี่หมด หากไฟนี้ติด ควรปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น และรีบเข้าศูนย์ซ่อม

5. ไฟเตือนอุณหภูมิเครื่องยนต์
ลักษณะ: รูปปรอทจุ่มน้ำ
แจ้งว่าเครื่องยนต์ร้อนเกินไป อาจเกิดจากน้ำหล่อเย็นหมด, หม้อน้ำรั่ว หรือพัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน ควรจอดรถและพักเครื่องยนต์ให้เย็นก่อนตรวจสอบ
6. ไฟเตือนถุงลมนิรภัย (Airbag Warning Light)
ลักษณะ: รูปคนและถุงลม
แจ้งเตือนว่าระบบถุงลมนิรภัยมีปัญหา หากเกิดอุบัติเหตุ ถุงลมอาจไม่ทำงาน ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบระบบความปลอดภัย
7. ไฟเตือนระบบ ABS
ลักษณะ: ตัวอักษร “ABS”
แจ้งว่าระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) มีปัญหา แม้จะยังเบรกได้ปกติ แต่ระบบ ABS อาจไม่ทำงานเมื่อเบรกฉุกเฉิน ควรเข้าศูนย์ตรวจสอบ
8. ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ
ลักษณะ: รูปปั๊มน้ำมัน
เป็นสัญญาณที่บอกว่าน้ำมันในถังใกล้หมดแล้ว ควรรีบหาปั๊มน้ำมันเติมโดยด่วน
9. ไฟเลี้ยวและไฟฉุกเฉิน
ลักษณะ: ลูกศรชี้ซ้ายหรือขวา (สำหรับไฟเลี้ยว) และสามเหลี่ยม (สำหรับไฟฉุกเฉิน)
ใช้ในการบอกทิศทาง เมื่อเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยวรถ และใช้ไฟฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุขัดข้องหรือจำเป็นต้องจอดในที่อันตราย
ทำไมต้องใส่ใจสัญญาณไฟรถยนต์?
การละเลย ไฟเตือนรถยนต์ อาจทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงกว่าเดิม เช่น เครื่องยนต์เสีย เบรกไม่ทำงาน หรือเกิดอุบัติเหตุใหญ่ ดังนั้นการรู้จักและใส่ใจ สัญลักษณ์ไฟรถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันปัญหาก่อนเกิดขึ้น ดังนั้นถ้าไฟเตือนขึ้น อย่าตื่นตระหนก ตรวจสอบไฟเตือนว่าหมายถึงอะไร โดยในคู่มือรถจะมีข้อมูลเกี่ยวกับไฟเตือนแต่ละชนิด หากไม่แน่ใจ ควรเข้าศูนย์บริการให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบปัญหา
การขับขี่อย่างปลอดภัย เริ่มต้นที่ความเข้าใจรถของตัวเอง อย่าลืมศึกษาสัญญาณไฟรถยนต์ให้เข้าใจ เพราะทุกไฟเตือนล้วนมีความสำคัญ รู้ทันก่อน ก็ป้องกันปัญหาใหญ่ได้ง่าย ๆ
อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/knowledge

กลับสู่หน้าหลัก