เกร็ดความรู้
7 เมษายน 2565
ดูแลรถอย่างไร ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นรถคันแรกหรือคันที่เท่าไร เจ้าของรถทุกคนก็อยากจะดูแลรถให้ใช้ไปได้นาน ๆ เพราะคงไม่มีใครอยากเสียเงินซ่อมรถบ่อย ๆ การดูแลเพื่อยืดอายุการใช้งานของรถให้นานขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย วันนี้ เกร็ดความรู้จากโตโยต้า ลีสซิ่ง จึงมีเคล็ดลับการดูแลรถมาแนะนำ เพื่อเป็นแนวทางการยืดอายุการใช้งานของรถคันโปรดกัน
1. ตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำ
การตรวจเช็กสภาพรถเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่คนรักรถไม่ควรละเลย เพราะการใช้งานย่อมทำให้เครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่าง ๆ เกิดความชำรุดหรือเสื่อมสภาพ ดังนั้นจึงต้องนำรถไปเช็กสภาพเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็กที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนหรือตรอ. ไปจนถึงการเช็กสภาพที่ศูนย์บริการ นอกจากนี้หากต้องบำรุงหรือซ่อมแซมส่วนใดก็ควรดำเนินการให้เรียบร้อย
2. ตรวจเช็กของเหลวในเครื่องยนต์
การเช็กของเหลวในเครื่องยนต์เป็นหนึ่งในขั้นตอนการดูแลรถที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ น้ำในหม้อน้ำ น้ำกลั่นแบตเตอรี่ น้ำฉีดกระจก ไปจนถึงน้ำมันพาวเวอร์ สิ่งเหล่านี้ควรตรวจสอบเป็นประจำ ซึ่งของเหลวบางอย่างเจ้าของรถสามารถเติมได้ด้วยตัวเอง แต่บางอย่างก็ต้องให้ช่างทำให้ และอย่าลืมตรวจสอบด้วยว่ามีของเหลวรั่วซึมออกมาจากรถยนต์หรือไม่
3. เติมลมยางให้พอดี
การเติมลมยางสำคัญมากกว่าที่คิด และถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับดูแลรถให้ใช้งานได้นาน ๆ หากเติมลมยางแข็งเกินไปจะส่งผลต่อช่วงล่างของรถที่ต้องทำงานหนัก เนื่องจากหน้ายางไม่เกาะถนนและต้องรับแรงกระแทกสูง แต่หากลมยางอ่อนเกินไปก็จะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ ดังนั้นจึงต้องหมั่นเช็กระดับแรงดันลมยาง และเติมลมยางให้พอดีตามที่คู่มือของรถแต่ละรุ่นระบุเอาไว้
4. ไม่เบรกกระทันหันบ่อย ๆ
บางครั้งในการขับขี่บนท้องถนนอาจเกิดสถานการณ์ที่ทำให้ต้องเบรกกระทันหันอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทางที่ดีหากต้องการดูแลรถให้ขับขี่ได้นาน ต้องไม่เบรกกระทันหันบ่อย ๆ เพราะการเบรกกระทันหันจะทำให้ระบบเบรกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
5. ไม่จอดรถตากแดดจัด
การจอดรถเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับดูแลรถที่ควรรู้หากต้องการยืดอายุการใช้งานของรถ สิ่งสำคัญคือไม่ควรจอดรถกลางแดดจัดเพราะความร้อนและรังสียูวีนั้นส่งผลทั้งต่อสีของรถและเครื่องยนต์ รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถด้วย ควรจอดในที่ร่มจะดีที่สุดหรือหากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ควรมีผ้าคลุมรถที่ป้องกันรังสียูวีด้วย
6. สังเกตไฟสัญญาณเตือนบนหน้าปัดรถเสมอ
เป็นอีกหนึ่งการดูแลรถที่มองข้ามไม่ได้สำหรับการสังเกตไฟสัญญาณเตือน เพราะไฟต่าง ๆ จะบอกสถานะผิดปกติของรถ เช่น ระบบเบรก ระบบไฟฟ้า น้ำมัน และอุณหภูมิของเครื่องยนต์ เพื่อให้เจ้าของรถรู้ว่าตอนนี้รถมีปัญหาอะไรหรือไม่ จะได้นำไปซ่อมหรือแก้ไขได้ทันเวลา
7. ไม่บรรทุกของหนักเกินไป
การบรรทุกสัมภาระหนักเกินไปส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ ทำให้เปลืองน้ำมัน อีกทั้งยังส่งผลต่อการควบคุมรถระหว่างการขับขี่ ไม่ควรบรรทุกของหนักมากเกินไปจะดีกว่า
8. หมั่นสังเกตเสียงของเครื่องยนต์เสมอ
เสียงของเครื่องยนต์บอกอะไรได้มากกว่าที่คิด ดังนั้นระหว่างขับขี่ให้หมั่นสังเกตเสียงของเครื่องยนต์เสมอว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ มีอาการขัด กระตุก หรือเสียงหวีดแหลมหรือเปล่า หากพบว่ามีเสียงผิดปกติต้องนำรถเข้าศูนย์ทันที
นอกจากการดูแลรถจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ และช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว การเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางด้วยการทำประกันภัยรถยนต์ ก็ไม่ควรมองข้ามและควรมองหาประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแบบครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://toyotainsurancebroker.com/index.php
หมายเหตุ - *รายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น เป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด บริษัท โตโยต้า อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด ให้บริการด้านนายหน้าประกันภัยในเครือโตโยต้า ลีสซิ่ง
อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/news/knowledge
ข่าวแนะนำ
© 2018 สงวนสิทธิ์โดย บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด