เกร็ดความรู้

29 มีนาคม 2567

Corolla Cross เครื่องเบนซิน หรือ ไฮบริด เลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์

Corolla Cross เครื่องเบนซิน หรือ ไฮบริด เลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์


Toyota Corolla Cross เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ยอดนิยมที่มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร (1.8 Sport) และเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร  (Hybrid Smart, Hybrid Premium และ Hybrid Premium Safety) ทำให้ผู้ที่สนใจรถรุ่นนี้อาจยังลังเลอยู่ว่าควรจะเลือกแบบไหนดี วันนี้ โตโยต้า ลีสซิ่ง จึงนำข้อมูลมาฝากกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจว่ารถแบบใดจะ ถึงจะตอบโจทย์มากที่สุด 
1.เครื่องยนต์  
เบนซิน : เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ของ Toyota Corolla Cross มีกำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีดที่มี Sequential Shift  จึงช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล รวมถึงเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น  
ไฮบริด : เครื่องยนต์เบนซิน1.8 ไฮบริด ของ Toyota Corolla Cross มีกำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 53 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร ให้กำลังรวมสูงสุด 122 แรงม้า  ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT แม้อัตราเร่งช้ากว่ารุ่นเบนซิน แต่ประหยัดน้ำมันกว่า
2. การดูแลรักษาแบตเตอรี่
เบนซิน : ดูแลรักษาง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงน้อยกว่า  ราคาแบตเตอรี่ประมาณ 2,500-3,000 บาท  
ไฮบริด : ดูแลรักษายากกว่า ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงมากกว่า เนื่องจากมีแบตเตอรี่ไฮบริด 12 โวลต์เพิ่มเข้ามาด้วย ราคาแบตเตอรี่ไฮบริดอยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท แต่ทางศูนย์โตโยต้ามีการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดให้ 10 ปี 
3. ระบบความปลอดภัย 
เบนซิน : มีระบบป้องกันล้อล็อก, ระบบกระจายแรงเบรก, ระบบเสริมแรงเบรก, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน และ สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน 
ไฮบริด : มีระบบป้องกันล้อล็อก, ระบบกระจายแรงเบรก, ระบบเสริมแรงเบรก, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน และ สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน เหมือนเครื่องยนต์เบนซิน  แต่รุ่น Hybrid Premium Safety มีระบบ Toyota Safety Sense ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น
4.ดีไซน์ภายนอก 
เนื่องจากเป็นการเปรียบเทียบระหว่างรุ่นเบนซิน 1.8 Sport กับรุ่นท็อปของไฮบริด  Hybrid Premium Safety จึงมีข้อแตกต่างกันพอสมควรดังนี้ 
1.8 Sport : ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบฮาโลเจน, ไม่มีไฟตัดหมอกหน้า , กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, กล้องมองหลังขณะถอยจอด และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว  
Hybrid Premium Safety:  ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED แบบ Hybrid,  ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Light Guiding, ไฟตัดหมอกหน้า LED, กระจกมองข้างปรับ-พับอัตโนมัติ พร้อม Reverse Link สามารถปรับตั้งค่าองศาได้, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, กล้องมองรอบคัน  แบบ 3D View, หลังคามูนรูฟไฟฟ้า และประตูปิดท้ายไฟฟ้า และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว 


จากข้อมูลที่นำมาฝากกันจะเห็นว่าเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริด ต่างมีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกันไป หากต้องการรถที่อัตราเร่งดี เสียงเครื่องยนต์เงียบ ขับสนุก เน้นสมรรถนะเป็นหลัก เครื่องยนต์เบนซินจะตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าต้องการรถที่ประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ไฮบริดจะมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น้อยกว่า และขับขี่เงียบกว่าเครื่องยนต์เบนซินเมื่อใช้มอเตอร์ไฟฟ้า และเพื่อประกอบตัดสินใจให้ง่ายขึ้น สามารถทดลองคำนวณค่างวดเบื้องต้น และขอสินเชื่อออนไลน์ได้ที่  https://bit.ly/3Uor1jr
อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่  https://www.tlt.co.th/knowledge

กลับสู่หน้าหลัก

ข่าวแนะนำ