เกร็ดความรู้

1 กุมภาพันธ์ 2568

อัปเดตเทรนด์ประกันที่ควรทำปี 2025 เพื่ออนาคตที่มั่นคงและคุ้มค่า

ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำประกัน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญ ที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและทรัพย์สินของเรา วันนี้ โตโยต้า ลีสซิ่ง จะมาอัปเดตเทรนด์ประกัน 2025 ที่น่าสนใจและควรนำไปพิจารณากัน โดยเฉพาะคนที่กำลังคิดจะทำประกัน ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ หรือ ประกันสุขภาพ
1. ประกันสุขภาพแบบปรับแต่งได้
ปี 2025 เทรนด์ใหม่ของประกันสุขภาพคือ การออกแบบกรมธรรม์ที่เหมาะสมกับความต้องการส่วนบุคคล เช่น ผู้เอาประกันสามารถเลือกความคุ้มครองเฉพาะโรคที่มีความกังวล หรือเพิ่มความคุ้มครองพิเศษสำหรับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน โดยจุดเด่นของประกันสุขภาพรูปแบบนี้ คือจ่ายเบี้ยประกันในราคาที่คุ้มค่า เพราะเลือกจ่ายเฉพาะสิ่งที่ต้องการ เหมาะกับคนที่อยากลดค่าใช้จ่าย แต่ยังได้ความคุ้มครองที่เหมาะสม
2. ประกันรถยนต์ที่เชื่อมต่อกับเทคโนโลยี IoT
เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมประกันมากขึ้น โดย ประกันรถยนต์ ในปี 2025 จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งในรถ เพื่อเก็บข้อมูลการขับขี่ เช่น ความเร็ว ระยะทาง และพฤติกรรมการขับขี่ ซึ่งผู้ที่มีพฤติกรรมขับรถดีจะได้รับส่วนลด โดยหากระบบพบว่า ผู้เอาประกันเป็นคนขับรถปลอดภัย เบี้ยประกันปีหน้าก็จะถูกลง เหมาะกับคนที่ใช้รถเป็นประจำ และอยากลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
3. ประกันภัยไซเบอร์สำหรับบุคคลทั่วไป
ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ปัจจุบันถือว่าสำคัญเป็นเรื่องอันดับต้น ๆ ทำให้เทรนด์ประกันภัยไซเบอร์ ตอบโจทย์คนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลหรือถูกแฮกเกอร์โจมตี โดยประกันจะคุ้มครองกรณีถูกหลอกโอนเงินออนไลน์ หรือข้อมูลส่วนตัวถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหมาะกับนักช็อปออนไลน์และคนที่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล
4. ประกันชีวิตที่รวมการลงทุนใน ESG Funds
ESG Funds (Environmental, Social, Governance) กำลังมาแรงในปี 2025 ประกันชีวิตที่รวมการลงทุนใน ESG จะไม่เพียงแค่ให้ความคุ้มครองชีวิต แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุน ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมจุดเด่นของประกันชีวิตรูปแบบนี้คือ ผู้ทำประกันจะได้ทั้งความมั่นคงในชีวิตและผลตอบแทนจากการลงทุน นับว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนแบบยั่งยืนและมีเป้าหมายช่วยดูแลโลกไปพร้อมกัน
5. ประกันรายได้สำหรับฟรีแลนซ์
เป็นผลิตภัณฑ์ประกันรูปแบบใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนทำงานอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ ที่รายได้ไม่แน่นอน หรือไม่มีรายได้ประจำเหมือนพนักงานออฟฟิศ ประกันประเภทนี้ช่วยสร้างความมั่นใจในด้านการเงิน เพราะจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่ไม่มีรายได้ เช่น เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้รายได้ลดลง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนที่มีอิสระในการทำงาน แต่ต้องการความมั่นคงด้านการเงิน
ก่อนตัดสินใจทำประกัน ควรพิจารณาถึงความต้องการในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงเปรียบเทียบความคุ้มครองและเบี้ยประกันจากหลายบริษัท หากไม่แน่ใจ ลองปรึกษากับตัวแทนประกันที่มีความน่าเชื่อถือ

อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/knowledge

กลับสู่หน้าหลัก