เกร็ดความรู้
5 พฤษภาคม 2567
วิธีตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์ด้วยตนเอง
การดูแลรักษารถยนต์ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเกี่ยวข้องกับหลายอย่าง แต่หนึ่งในสิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรละเลยคือ การตรวจสอบไส้กรองอากาศ ที่เปรียบเสมือนปอดของรถยนต์ ทำหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก ไม่ให้เข้าไปในเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และประหยัดน้ำมัน ดังนั้นวันนี้โตโยต้า ลีสซิ่ง จะมาบอกเทคนิคง่าย ๆ ในการตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองอากาศของรถยนต์ด้วยตนเองง่าย ๆ ที่บ้าน
เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบไส้กรองอากาศ
การตรวจสอบสภาพของไส้กรองอากาศนั้นสำคัญมาก เพราะสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพของรถยนต์ได้โดยตรง หากไส้กรองอากาศ มีคราบสกปรกหรือฝุ่นที่หนามาก อาจทำให้การหายใจของเครื่องยนต์มีปัญหา ดังนั้นให้เริ่มต้นด้วยการเปิดฝาที่บริเวณไส้กรองอากาศและตรวจสอบดูว่ามีคราบหรือไม่ นอกจากนั้นยังมีวิธีสังเกตไส้กรองอากาศรถยนต์ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว ดังนี้
1. สังเกตอาการรถ
• เครื่องยนต์อืด กำลังตก สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น
• เครื่องยนต์สั่นมีเสียงดังผิดปกติ
• ควันไอเสียดำ
• ปั๊มน้ำมันเบนซินยากขึ้น
2. ตรวจสอบตามระยะ
โดยทั่วไปแนะนำให้ตรวจสอบไส้กรองอากาศทุก 10,000 กิโลเมตร และเปลี่ยนใหม่ทุก 20,000-40,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการเปลี่ยนไส้กรองอากาศอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นรถสภาพการใช้งาน และสภาพแวดล้อม ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลในคู่มือรถหรือปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ
3. สภาพไส้กรอง
• ไส้กรองดูสกปรก เต็มไปด้วยฝุ่นละออง
• เปลี่ยนสี ซีด หรือฉีกขาด
วิธีเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์ด้วยตนเอง
1. เตรียมอุปกรณ์ ตรวจสอบจากคู่มือรถว่าใช้ไส้กรองรุ่นไหน มีวิธีการเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์เฉพาะรุ่นอย่างไร ควรเลือกซื้อไส้กรองที่เป็นของแท้หรืออะไหล่ทดแทนที่มีคุณภาพ เตรียมไขควงให้เหมาะกับขนาดน็อต และผ้าสะอาด
2. เปิดฝากระโปรงรถ เมื่อเปิดฝากระโปรงรถจะเจอกับหม้อกรองอากาศ ให้แกะกิ๊บล็อกหม้อกรองออก เมื่อเปิดฝาหม้อกรองก็จะเห็นไส้กรองอากาศ หากไส้กรองอากาศยังสกปรกไม่มาก ให้เคาะฝุ่นออก แต่หากสกปรกมากควรเปลี่ยนใหม่
3. ถอดไส้กรองอากาศเก่าออก ดึงไส้กรองอากาศเก่าออกจากหม้อกรอง โดยให้จับไส้กรองอย่างเบามือ
4. ใส่ไส้กรองอากาศใหม่ ใส่ไส้กรองอากาศใหม่ให้ตรงกับตำแหน่งเดิม อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าใส่ไส้กรองถูกด้าน และไม่ควรสัมผัสส่วนที่เป็นกระดาษกรอง เพราะอาจทำให้ไส้กรองเสียหาย
5. ปิดฝาครอบหม้อกรองอากาศ ล็อกฝาครอบหม้อกรองอากาศให้สนิท และตรวจสอบให้แน่ใจว่าล็อกแน่นเรียบร้อย
6. สตาร์ทเครื่องยนต์ ตรวจสอบว่าไม่มีไฟ Engine Check Light (รูปเครื่องยนต์) ขึ้นหรือไม่ หากมีไฟขึ้นแสดงว่ามีปัญหา ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กกับช่างผู้เชี่ยวชาญ
จะเห็นว่าการเปลี่ยนไส้กรองอากาศของรถยนต์ด้วยตนเองจึงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำการตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถยนต์ของคุณสามารถทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/knowledge
ข่าวแนะนำ