
เกร็ดความรู้
24 ธันวาคม 2568
คู่มือเปลี่ยนถ่าย "น้ำมันเครื่อง" สำหรับรถยนต์ที่คุณรัก
"เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตอนไหนดี?" หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่า ทุก 10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน บ้างก็ว่า "ดูจากคู่มือรถ" หรือบางทีก็ปล่อยเลยตามเลยไปจนลืม จริง ๆ แล้ว ระยะเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะน้ำมันเครื่องก็เหมือนเลือดในร่างกายคนเรา ถ้าเลือดเสีย เลือดไม่พอ ร่างกายก็แย่ เครื่องยนต์ก็เช่นกัน
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ กำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง อาจทำให้รถยนต์ของเราทำงานหนักโดยไม่จำเป็น และส่งผลเสียร้ายแรงต่อเครื่องยนต์ในระยะยาว วันนี้ โตโยต้า ลีสซิ่ง จะมาไขข้อข้องใจทั้งหมด เพื่อให้คุณเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอย่างถ่องแท้ พร้อมเคล็ดลับดี ๆ สำหรับรถคู่ใจของคุณ เพื่อยืดอายุเครื่องยนต์ ให้ใช้ได้นาน ๆ และประหยัดค่าซ่อมบำรุงในอนาคต
1. ทำไมต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า น้ำมันเครื่องมีบทบาทสำคัญกว่าที่คิดเยอะ ไม่ใช่แค่หล่อลื่นอย่างเดียว แต่ยังมีอีกหลายหน้าที่
หน้าที่ของน้ำมันเครื่องรถยนต์
• หล่อลื่นชิ้นส่วน นี่คือหน้าที่หลัก น้ำมันเครื่องจะไปเคลือบชิ้นส่วนต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ที่เคลื่อนที่เสียดสีกัน ช่วยลดการสึกหรอ และทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น
• ระบายความร้อน ขณะเครื่องยนต์ทำงานจะเกิดความร้อนสูง น้ำมันเครื่องจะช่วยนำพาความร้อนส่วนเกินออกมาจากชิ้นส่วนต่าง ๆ
• ทำความสะอาด น้ำมันเครื่องจะชะล้างคราบเขม่า ฝุ่นละออง หรือเศษโลหะเล็ก ๆ ที่เกิดจากการสึกหรอ ให้ไปรวมตัวกันที่กรองน้ำมันเครื่อง
• ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน มีสารเคมีบางชนิดในน้ำมันเครื่อง ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนโลหะเกิดสนิม
• ซีลช่องว่าง ช่วยซีลช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างชิ้นส่วน เพื่อป้องกันการรั่วไหลของก๊าซจากการเผาไหม้
สาเหตุที่น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ
• การใช้งาน ยิ่งใช้งานรถยนต์หนัก เครื่องยนต์ยิ่งทำงานหนัก น้ำมันเครื่องก็ยิ่งเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
• ความร้อนสูง ความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ ทำให้น้ำมันเครื่องเกิดการออกซิเดชั่น และคุณสมบัติในการหล่อลื่นลดลง
• ปนเปื้อน คราบเขม่า ฝุ่นละออง และเชื้อเพลิงที่เผาไหม้ไม่หมด จะเข้าไปปนเปื้อนในน้ำมันเครื่อง
• เวลา แม้ไม่ได้ใช้งานรถบ่อย น้ำมันเครื่องก็เสื่อมสภาพได้ตามกาลเวลา เนื่องจากสัมผัสกับอากาศและความชื้น
ผลเสียหากไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
• เครื่องยนต์สึกหรอเร็ว เมื่อน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ การหล่อลื่นไม่ดีพอ ชิ้นส่วนต่าง ๆ จะสึกหรอเร็วขึ้น อาจนำไปสู่การซ่อมใหญ่ที่ค่าใช้จ่ายสูง
• ประสิทธิภาพลดลง เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และกำลังเครื่องลดลง
• เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท น้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพ จะระบายความร้อนได้ไม่ดี ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด
• เขม่าสะสม คราบสกปรกและเขม่าจะสะสมในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ
2. ระยะเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?
ไม่มีคำตอบตายตัวแบบเป๊ะ ๆ เพราะระยะเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
ประเภทของน้ำมันเครื่องรถยนต์
• น้ำมันเครื่องธรรมดา (Conventional Oil) ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทุก ๆ 5,000 กิโลเมตร หรือ 3-6 เดือน (แล้วแต่ว่าถึงอย่างไหนก่อน)
• น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic Oil) ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทุก ๆ 7,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน
• น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Full Synthetic Oil) มีประสิทธิภาพสูงสุด ทนความร้อนได้ดี และมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทุก ๆ 10,000 – 15,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี
สภาพการขับขี่
• ขับขี่ในเมือง การจราจรติดขัดบ่อย ๆ หากขับรถติด ๆ ดับ ๆ บ่อย ๆ หรือขับระยะทางสั้น ๆ ที่เครื่องยนต์ยังไม่ทันร้อนดี ก็ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้เร็วกว่าปกติ เพราะเครื่องยนต์ทำงานหนักกว่าที่คิด
• ขับขี่ทางไกล สภาพถนนดี สามารถยึดตามกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามคู่มือ หรือตามประเภทน้ำมันเครื่องได้
• อายุของรถยนต์ รถยนต์ที่มีอายุมาก หรือใช้งานมานาน อาจต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยขึ้น เพราะชิ้นส่วนเครื่องยนต์ อาจมีการสึกหรอมากกว่ารถใหม่
• ตารางเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ รถยนต์แต่ละรุ่น เช่น Toyota ทุกรุ่นจะมีคู่มือประจำรถที่ระบุ ตารางเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ และการบำรุงรักษาตามระยะเอาไว้ ควรยึดตามคู่มือของรถของคุณเป็นหลัก เพราะนั่นคือข้อมูลที่ผู้ผลิตแนะนำมาอย่างดีที่สุดแล้ว เช่น รถ Toyota Vios, Yaris Cross, Corolla Cross หรือ Fortuner แต่ละรุ่นอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน
3. วิธีเช็กระดับน้ำมันเครื่องเอง ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน
การเช็กระดับน้ำมันเครื่องเอง เป็นสิ่งง่าย ๆ ที่เจ้าของรถทุกคน ควรทำเป็นอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือก่อนเดินทางไกล เพื่อสังเกตอาการน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ และตรวจสอบว่าน้ำมันเครื่อง อยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่
ขั้นตอนการเช็ก
• จอดรถบนพื้นราบ ดับเครื่องยนต์ ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงอ่าง
• ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมา บริเวณเครื่องยนต์ มักจะมีห่วงสีเหลืองหรือส้ม ดึงออกมาแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบน้ำมันออกให้หมด
• เสียบก้านวัดกลับเข้าไปให้สุด รอสักครู่ แล้วดึงออกมาดูระดับน้ำมันเครื่อง
สังเกตระดับและสภาพน้ำมัน
• ระดับน้ำมัน น้ำมันเครื่องควรอยู่ระหว่างขีด Min และ Max (มักจะเป็นจุด 2 จุด หรือขีดบน-ล่าง) หากต่ำกว่า Min ให้เติมเพิ่ม
• สีของน้ำมัน น้ำมันเครื่องที่ดี จะมีสีเหลืองอำพัน หากเป็นสีดำสนิทและข้นหนืดมาก ๆ แสดงว่า น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ และถึงเวลา เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว
• กลิ่นและสิ่งแปลกปลอม หากมีกลิ่นไหม้ หรือมีเศษโลหะปนอยู่ ควรนำรถเข้าตรวจเช็กโดยช่างผู้เชี่ยวชาญทันที
การเช็กระดับน้ำมันเครื่องเอง จะช่วยให้คุณรู้สภาพเครื่องยนต์เบื้องต้นได้ และตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหรือยัง
4. เลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์อย่างไรให้เหมาะสม?
การเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่ถูกต้อง คือหัวใจสำคัญในการยืดอายุเครื่องยนต์ และยังช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษารถในระยะยาวด้วย
• เกรดความหนืด ดูได้จากตัวเลขที่ระบุบนฉลาก เช่น 5W-30, 10W-40 ตัวเลขหน้า W (Winter) บ่งบอกความหนืดในอุณหภูมิต่ำ ส่วนตัวเลขหลัง บ่งบอกความหนืดในอุณหภูมิสูง ควรเลือกเกรดความหนืดที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำในคู่มือรถ
• มาตรฐาน API / ACEA เป็นมาตรฐานสากล ที่รับรองคุณภาพของน้ำมันเครื่อง เช่น API SN, API SP หรือ ACEA A3/B4 มาตรฐานเหล่านี้ บ่งบอกถึงคุณสมบัติของน้ำมันเครื่อง ในการปกป้องเครื่องยนต์และการทำงานที่เหมาะสม ควรเลือกน้ำมันเครื่อง ที่ผ่านมาตรฐานที่สูงที่สุดที่รถของคุณต้องการ
การลงทุนกับน้ำมันเครื่องรถยนต์คุณภาพดี แม้ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่ในระยะยาวแล้วจะช่วย ยืดอายุเครื่องยนต์ และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมได้มากกว่า
5. บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน
เมื่อถึงกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง การเลือกร้านหรือศูนย์บริการที่มีมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการที่ดีที่สุด และใช้อะไหล่แท้
• ศูนย์บริการโตโยต้า การนำรถเข้าศูนย์บริการโตโยต้า เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีช่างผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมมาโดยเฉพาะ อุปกรณ์ได้มาตรฐาน และใช้อะไหล่แท้ หรือน้ำมันเครื่องที่แนะนำโดย Toyota โดยตรง นอกจากนี้ยังสะดวกสบาย มีบริการหลังการขาย และมักจะมี โปรโมชั่นเช็กระยะดี ๆ ให้เลือกใช้บริการ
• อู่ที่เชี่ยวชาญ หากเลือกอู่นอก ควรเลือกอู่ที่มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวดี ๆ และมีประสบการณ์ในการดูแลรถ Toyota โดยเฉพาะ ควรสอบถามเรื่องชนิดของน้ำมันเครื่อง และอะไหล่ที่จะใช้ให้ชัดเจน
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ตามกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และการเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในการยืดอายุเครื่องยนต์ และประหยัดค่าบำรุงรักษารถในระยะยาว อย่าปล่อยให้การละเลยเพียงเล็กน้อย นำไปสู่ค่าใช้จ่ายก้อนโตที่ตามมา
หากคุณกำลังมองหาน้ำมันเครื่องที่มั่นใจได้ว่ามีมาตรฐาน เป็นของแท้ที่แนะนำโดยโตโยต้า สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่ช้อปสบาย เว็บไซต์ที่ครบเรื่องรถในเว็บเดียว https://bit.ly/4pzy7Oj
ข่าวแนะนำ