
เกร็ดความรู้
13 ธันวาคม 2568
รถจมน้ำ...สิ้นหวังหรือซ่อมได้? 10 สเต็ปต้องทำหลังน้ำลด


วินาทีที่เห็นรถจมน้ำอยู่ตรงหน้า คงทำให้หลายคนใจสลาย ความเสียหายที่มองเห็นบวกกับ ความกังวลถึงค่าซ่อมที่มองไม่เห็น อาจทำให้รู้สึกสิ้นหวัง แต่ก่อนจะถอดใจ ลองมาตั้งสติและทำตาม 10 สเต็ปสำคัญ ที่โตโยต้า ลีสซิ่ง นำมาแชร์ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูรถจมน้ำของคุณจากหนักให้เป็นเบาได้ การรับมืออย่างถูกวิธีหลังน้ำท่วมรถคือหัวใจสำคัญที่สุด ที่จะเพิ่มโอกาสให้รถสุดที่รักของคุณกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
สิ่งที่ "ห้ามทำ" เด็ดขาดเมื่อรถจมน้ำ
ก่อนจะไปดูว่าต้องทำอะไรบ้าง มาเริ่มจากสิ่งที่ "ห้ามทำเด็ดขาด" ก่อน นั่นคือ ห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด นี่คือกฎเหล็กข้อสำคัญที่สุด ที่ต้องจำให้ขึ้นใจ การพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์ ในขณะที่อาจมีน้ำเข้าไปในห้องเผาไหม้ เปรียบเสมือนการบังคับให้ร่างกายที่กำลังสำลักน้ำทำงานหนัก ซึ่งจะส่งผลให้ก้านสูบคดงอหรือหักได้ทันที (อาการที่ช่างเรียกว่า Hydrolock) ความเสียหายระดับนี้ อาจหมายถึงการต้องยกเครื่องใหม่ทั้งลูก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
10 สเต็ปต้องทำทันที! คู่มือเอาตัวรอดเมื่อรถโดนน้ำท่วม
เมื่อน้ำลดแล้ว และสามารถเข้าถึงรถได้อย่างปลอดภัย ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ทันที
1. หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป ความเสียหายให้ได้มากที่สุด ถ่ายทั้งภายนอก ภายใน และรอบ ๆ บริเวณรถ เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการเคลมประกันรถจมน้ำ
2. รีบถอดขั้วแบตเตอรี่ออก โดยเริ่มจากขั้วลบ (-) ก่อนเสมอ นี่เป็นการ "ตัดไฟ" ตั้งแต่ต้นลมที่สำคัญมาก เพื่อป้องกันการลัดวงจร ที่อาจสร้างความเสียหายต่อกล่อง ECU หรือระบบไฟฟ้าอื่น ๆ
3. ห้ามบิดกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ทเด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะใจร้อนหรืออยากจะลองแค่ไหนก็ตาม ข้อนี้สำคัญมากจนต้องย้ำอีกครั้ง
4. ลองดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาดู หากสีของน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีคล้าย "ชานม" หรือ "กาแฟใส่นม" นั่นคือสัญญาณอันตรายว่า มีน้ำเข้าไปผสมกับน้ำมันเครื่องแล้ว ให้ทำเช่นเดียวกันกับก้านวัดน้ำมันเกียร์ (ถ้ามี)
5. เปิดประตูรถและสังเกตดูร่องรอยคราบน้ำที่ทิ้งไว้ ว่าระดับน้ำสูงสุดที่เข้ามาในรถนั้น สูงถึงระดับไหน แค่พื้นพรม, ถึงเบาะนั่ง, หรือท่วมถึงคอนโซลหน้า? ข้อมูลนี้สำคัญมาก ในการประเมินความเสียหายของระบบไฟฟ้าภายใน
6. เปิดประตูรถทั้ง 4 บาน เพื่อระบายความอับชื้น นำพรมปูพื้นและทุกอย่างที่เปียกน้ำ ออกมาตากแดด ใช้ผ้าแห้งซับน้ำที่ขังอยู่ออกให้ได้มากที่สุด การทำแบบนี้จะช่วยลดโอกาสการเกิดเชื้อราและกลิ่นเหม็นอับได้
7. เปิดฝากระโปรงและลองเปิดกล่องไส้กรองอากาศดู หากพบว่าไส้กรองเปียกชุ่ม นั่นเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่บ่งชี้ว่าน้ำอาจจะเข้าไปใกล้ห้องเครื่องยนต์มาก
8. งดการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด จนกว่าจะแน่ใจว่าระบบแห้งสนิท การเสียบกุญแจในรถรุ่นใหม่อาจเป็นการปลุกระบบไฟฟ้าบางส่วนให้ทำงาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการลัดวงจรได้ หากยังมีความชื้นอยู่
9. รีบโทรแจ้งบริษัทประกันภัยของคุณทันที หลังจากรวบรวมหลักฐานภาพถ่ายและประเมินความเสียหายเบื้องต้นแล้ว เพื่อแจ้งเรื่องการเคลมและขอคำแนะนำในขั้นตอนต่อไป
10. อย่าพยายามขับรถรถโดนน้ำท่วมด้วยตัวเองเด็ดขาด ควรใช้บริการรถยกประเภทรถสไลด์ (Flatbed) เพื่อเคลื่อนย้ายรถไปยังอู่ หรือศูนย์บริการที่เชี่ยวชาญในการซ่อมรถจมน้ำ
รถจมน้ำแค่ไหนถึงซ่อมคุ้ม? วิธีประเมินความเสียหายเบื้องต้น
ความกังวลที่เจ้าของรถยนต์ที่เสียหายคิดเหมือน ๆ กันก็คือ ซ่อมรถแล้วจะคุ้มไหม นี่คือวิธีประเมินความเสียหายเบื้องต้น
ระดับที่ 1 ท่วมพื้นรถ ไม่ถึงเบาะ มีโอกาสรอดสูงมาก ส่วนใหญ่จะเป็นงานทำความสะอาด และไล่ความชื้นระบบพรมและช่วงล่าง
ระดับที่ 2 ท่วมถึงเบาะนั่ง ความเสียหายปานกลาง ระบบไฟฟ้าใต้เบาะอาจเสียหาย ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด ค่าซ่อมเริ่มสูงขึ้น
ระดับที่ 3 ท่วมถึงคอนโซลหน้า หนักหนาสาหัส ระบบอิเล็กทรอนิกส์สำคัญ ๆ เช่น กล่อง ECU, หน้าปัดเรือนไมล์ อาจเสียหายทั้งหมด ค่าซ่อมสูงมากจนอาจไม่คุ้มค่า และประกันอาจประเมินเป็น "เสียหายโดยสิ้นเชิง" (Total Loss)
ระดับที่ 4 ท่วมมิดคัน โอกาสรอดน้อยมาก แนะนำให้ทำใจและเตรียมคุยกับประกัน เพื่อคืนทุนประกัน
ข้อควรระวังพิเศษสำหรับ "รถยนต์ไฟฟ้า (EV)" เมื่อโดนน้ำท่วม
สำหรับเจ้าของรถ EV ความปลอดภัยต้องมาก่อน หากรถโดนน้ำท่วม คำแนะนำคือ
• ห้ามเข้าใกล้หรือสัมผัสสายไฟแรงสูงสีส้มเด็ดขาด
• ห้ามพยายามชาร์จไฟรถโดยเด็ดขาด แม้ระบบไฟฟ้าจะถูกออกแบบมา ให้ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อลัดวงจร แต่ความเสี่ยงยังคงมีอยู่
ทางที่ดีที่สุดคือ โทรติดต่อศูนย์บริการของผู้ผลิตรถยนต์ของคุณทันที เพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาจัดการโดยเฉพาะ
การเผชิญหน้ากับรถจมน้ำ เป็นฝันร้ายของคนมีรถ แต่การมี "สติ" และรับมืออย่างถูกวิธี ตามขั้นตอนที่โตโยต้า ลีสซิ่ง แนะนำไปคือสิ่งที่ควรทำ การไม่ผลีผลามสตาร์ทเครื่องยนต์ และการรีบตัดระบบไฟฟ้า คือสองสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะช่วยรักษาชีวิตเครื่องยนต์และระบบต่าง ๆ ของรถเอาไว้ได้ พึงระลึกไว้เสมอว่ารถยนต์สามารถซ่อมแซมได้ แต่ความปลอดภัยของคุณและครอบครัวต้องมาก่อนเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี
ข่าวแนะนำ
