เกร็ดความรู้

21 กรกฎาคม 2564

พ.ร.บ.รถยนต์ ทำไมต้องต่อทุกปี

พ.ร.บ.รถยนต์ ทำไมต้องต่อทุกปี


หน้าที่สำหรับเจ้าของรถทุกคนคือการต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ และต่อภาษีรถตามวันที่ระบุไว้ แต่หลายคนยังมีความสับสนอยู่บ้างว่าทั้งสองอย่างเหมือนหรือต่างกันอย่างไร และทำไมถึงต้องต่อทุกปี บทความนี้จะช่วยไขความกระจ่างให้คนขับรถได้ทราบกัน


ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า พ.ร.บ.รถยนต์ คือประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นประกันภัยภาคบังคับตามกฎหมาย นั่นหมายความว่ารถทุกคันจำเป็นต้องทำประกันภัย พ.ร.บ.รถยนต์ เพื่อให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผู้ประสบอุบัติภัยจากรถยนต์รวมถึงรถจักรยานยนต์ และรถทุกประเภท ทั้งกรณีที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยครอบคลุมทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร ตลอดจนคนสัญจรบนทางเท้าทั่วไป


พ.ร.บ.รถยนต์ และภาษีรถยนต์ ต่างกันอย่างไร
พ.ร.บ.รถยนต์ หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นประกันภัยรถยนต์ขั้นต้นที่ผู้ใช้รถทุกคนจำเป็นต้องทำ เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝัน
ภาษีรถยนต์ คือค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถทุกคันต้องดำเนินการชำระทุกปี เช่นเดียวกับภาษีเงินได้หรือภาษีอื่น ๆ ที่จ่ายทางตรง เพื่อไปดูแลรักษาระบบคมนาคมและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง


ไม่ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ มีความผิด  
หากฝ่าฝืนไม่ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ซึ่งถือเป็นประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับนั้น จะมีโทษตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดยจะระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งการต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ จำเป็นที่จะต้องทำทุกปี เพราะกฎหมายได้ทำการกำหนดไว้ว่า รถทุกคันไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถโดยสารประจำทาง รถโดยสารไม่ประจำทาง รถบรรทุก ฯลฯ ต้องต่อ  พ.ร.บ.รถยนต์ ทุกปี เพื่อให้รถทุกคันยังคงได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง 


ทำไมต้องต่อภาษีรถยนต์
การต่อภาษีรถยนต์ถือเป็นการจ่ายภาษีประเภทหนึ่งที่เป็นหน้าที่ของผู้ขับขีรถ ซึ่งภาษีรถส่วนหนึ่งจะนำไปใช้เพื่อการสนับสนุนหน่วยงานคมนาคม ปรับปรุงถนนหนทางทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาระบบการคมนาคมอื่น ๆ ด้วย  ทั้งนี้ หากขาดการต่อภาษีรถยนต์หลังจากป้ายภาษีหมดอายุจะถือว่าเป็นรถผิดกฎหมาย ซึ่งจะเสียค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือน และหากไม่ต่อภาษีรถติดต่อกันเกิน 3 ปี จะถูกระงับทะเบียน ส่งผลให้ต้องนำรถไปจดทะเบียนภาษีรถยนต์ใหม่ 


พ.ร.บ.รถยนต์ และภาษีรถต้องต่อทุกปี 
การต่อภาษีรถหรือเรียกอีกอย่างว่าการต่อทะเบียนรถนั้นจะได้รับป้ายสีเหลี่ยมจากกรมการขนส่งทางบกมาติดตรงหน้ารถ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ป้ายวงกลม” นั่นเอง  ซึ่งหลังจากต่อพรบ.รถยนต์แล้ว เจ้าของรถจะต้องทำการต่อภาษีรถด้วย แต่หากเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป จะต้องได้รับการตรวจสภาพรถประจำปีก่อนด้วย จึงจะสามารถต่อภาษีรถได้ ซึ่งเจ้าของรถต้องต่อทั้ง พ.ร.บ.รถยนต์ และภาษีรถยนต์ทุกปี เพื่อรับการคุ้มครองตามกฎหมายและให้รถสามารถวิ่งบนถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและปลอดภัย

กลับสู่หน้าหลัก

ข่าวแนะนำ