เลือกน้ำมันเครื่องอย่างไร เหมาะกับรถ

น้ำมันเครื่องรถยนต์มีความสำคัญกับเครื่องยนต์รถยนต์เป็นอย่างมาก โดยหากเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมก็จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มสมรรถนะ ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวของชิ้นส่วนโลหะในเครื่องยนต์เสียดสี และสึกหรอ ช่วยระบายความร้อน และยังปกป้องเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกน้ำมันเครื่องอย่างถูกต้อง ซึ่ง โตโยต้า ลีสซิ่ง จะมาแนะนำว่าควรเลือกน้ำมันเครื่องอย่างไร

การเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับรถ สามารถทำได้โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1.ชนิดของเครื่องยนต์ 
รถยนต์มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายประเภท เช่น เครื่องยนต์เบนซิน, เครื่องยนต์ดีเซล, เครื่องยนต์ไฮบริด เป็นต้น โดยแต่ละประเภทของเครื่องยนต์ ก็มีความต้องการน้ำมันเครื่องที่แตกต่างกัน 
2.อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ 
เครื่องยนต์ใหม่ต้องการน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำ เพื่อให้สามารถหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ดีแม้ในอุณหภูมิต่ำ ส่วนเครื่องยนต์ที่มีอายุการใช้งานนาน ต้องการน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดสูงขึ้น เพื่อให้สามารถปกป้องเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น
3.ลักษณะการขับขี่ 
หากขับรถในเมืองที่ต้องการเร่งเครื่องบ่อย ๆ จะต้องการน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.สภาพอากาศ 
หากขับรถในอากาศร้อน จะต้องการน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.คำแนะนำจากบริษัทผู้ผลิตรถ
ควรตรวจสอบคำแนะนำจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ใช้ จะช่วยให้ได้ข้อมูลน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่เหมาะสม โดยสามารถดูในคู่มือการใช้งานหรือบนเว็บไซต์ของผู้ผลิตรถยนต์นั้น ๆ 
6.ราคาและคุณภาพน้ำมันเครื่องรถยนต์
การเลือกซื้อน้ำมันที่มีคุณภาพต่ำเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย อาจทำให้ต้องจ่ายเงินในการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษารถยนต์มากขึ้นก็เป็นได้ ดังนั้นควรพิจารณาปัจจัยเรื่องราคาและคุณภาพอย่างถี่ถ้วน
7.ประเภทน้ำมันเครื่อง 
น้ำมันเครื่องแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
•    น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic) เป็นน้ำมันเครื่องที่มีส่วนผสมของสารสังเคราะห์ 100% มีความหนืดต่ำ หล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ใหม่ ๆ และเครื่องยนต์ที่ใช้งานหนัก
•    น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) เป็นน้ำมันเครื่องที่ผสมระหว่างน้ำมันเครื่องสังเคราะห์และน้ำมันเครื่องธรรมดา มีความหนืดปานกลาง หล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไป
•    น้ำมันเครื่องธรรมดา (Mineral Oil) เป็นน้ำมันเครื่องที่ได้จากปิโตรเลียม มีความหนืดสูง หล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์ได้ในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับเครื่องยนต์รุ่นเก่า
8.การเลือกตามค่าความหนืด
ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่อง จะระบุด้วยตัวเลขสองตัวตามมาตรฐาน SAE (Society of Automotive Engineers) โดยความหนืดไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่อง ดังนั้นจึงควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดเหมาะสมกับสภาพของเครื่องยนต์และสภาพการใช้งานเป็นหลัก เช่น รถใหม่ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีเบอร์น้อย ๆ  อย่าง SAE 10W-30 จะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น แต่ถ้ารถเก่า ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีเบอร์ความหนืดที่ข้นมากขึ้น เพื่อเพิ่มความหนาในการทำหน้าที่เป็นฟิล์มป้องกันการเสียดสีของชิ้นส่วน

ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์อย่างถูกต้อง นอกจากนั้นควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก ๆ 5,000-10,000 กิโลเมตร และควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ หากระดับน้ำมันเครื่องต่ำ ควรเติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานและรักษาเครื่องยนต์

อ่านเกร็ดความรู้อื่น ๆ ได้ที่ https://www.tlt.co.th/knowledge